ROA
ROA คือดูว่าบริษัทมีการเอาสินทรัพย์ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แค่ไหน มีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ที่มีกี่ %
โดยที่ สินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทนั้น เกิดจากของสองอย่างคือ ส่วนทุนที่เกิดจากการลงเงินของผู้ถือหุ้น(หรือที่สะสมๆ กันมาเนื่องจากมกำไรสะสม) และส่วนที่เกิดจากการกู้หนี้ยืมสิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินระยะสั้น ระยะยาว หนี้สินหมุนเวียนเครดิตอะไรก็ตาม
จากสมการ
สินทรัพย์ (Asset) = ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) + หนี้สินสารพัด (Liability)
จะเห็นได้ว่า..
สิ่งที่ทำให้เกิดผลตอบแทนจริงๆ ของบริษัทนั้นคือ Asset นั่นแหละ
ลองนึกภาพดูว่า ถ้าบริษัทไม่มีหนี้เลย (สมมติว่ามีบริษัทประเภทนี้นะ) ซื้ออะไรมาก็จ่ายเป็นเงินสดหมด หนี้สินก็ไม่กู้ เรียกว่ารวยแล้วอะไรแบบนั้น เงินฉันเยอะ ไม่กู้ๆๆ จะเห็นได้ว่า สินทรัพย์จะ = ส่วนของผู้ถือหุ้น ลักษณะอย่างนี้จะทำให้ ROE พอๆ กันกับ ROA ครับ
แต่ถ้าบริษัทมีหนี้มาก ROE ก็สูงได้ โดยไม่ต้องเอาเงินผู้ถือหุ้นมาใช้ เพราะใช้เงินกู้มาลงทุนแทน แต่การมีหนี้มันบอกแค่ว่าธุรกิจเสี่ยงขึ้นเฉยๆ ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี เพราะถ้ากู้แล้วคุ้มก็ดี เพราะส่วนผูุ้ถือหุ้นจะได้ผลตอบแทนด้วยการที่บริษัทมี ROE สูงๆ โดยใช้เงินกู้มาลงทุนไงครับ ไม่ต้องใช้เงินของผู้ถือหุ้นเอง
ธุรกิจที่ ROA ต่ำ ROE สูงก็พวกอสังหาให้เช่า ส่วนใหญ่จะกู้ 70 ทุนตัวเอง 30 สมมติทำอพาร์ทเม้นต์ 50 ห้องค่าเช่าห้องละ 3000 ลงทุน 20 ล้าน จะได้งบดุลดังนี้
• สินทรัพย์ 20 ล้าน = หนี้ 14 ล้าน + ทุน 6 ล้าน
สมมติว่าคนเช่าเต็มจะมีรายได้ปีละ 3000x50x12=1,800,000 บาท
สมมติมีค่าใช้จ่ายต่างๆเหลือเงินครึงนึงก็เหลือกำไร 900,000 จะได้
• ROA = 900,000/20,000,000=0.045 หรือ 4.5%
• ROE = 900,000/6,000,000=0.15 หรือ 15%
|